80s toys - Atari. I still have


ผมมีประสบการณ์จะเล่าให้ฟัง เมื่อตอนที่ผมไปทำงานรับราชการ ที่ กทม. ได้กือบ ย่างปีที่3 นั้น ตอนน้นกำลังอายุได้ 23 ปีอยู่ครับ ก็มีเพื่อนผมคนที่ทำงานด้วยกันเขาชวนไปรับเพื่อนของเขาที่หมอชิต 2 เป็นผู้หญิงมาจากต่างจังหวัด 2 คนชื่อว่า พี่หมวย อายุราวๆ 35 อีกคนชื่อว่า พี่จิ๊บ อายุ เท่ากันกับพี่หมวย พอไปรับเสร็จเราก็พากันไปกินข้าวตอนนั้นก็ราวๆ4 ทุ่มกว่าแล้วก็เลยสั่งเหล้ามากินกัน พี่สาวของผมทั้ง 2กินเหล้าเก่งมากครับ กินกันจนถึงตี1 กว่า เพื่อนผมก็ไม่ไหวเราก็เลยพากันไปกินต่อที่ห้องของผม พอไปถึงเพื่อนผมก็นอนหลับไปเพราะความเมาส่วนพี่สาวของผมทั้งสองนั้น สงสัยแกอยากฟันผมมั้งครับเลยไม่ยอมหลับนอนไอ้ผมก็เมาเหมือนกันครับแต่กินระวัง เพราะกลัวเสียฟอร์ม ผมก็เลยชวนพี่ทั้งสองเล่นป๊อกเด้งกันตอนแรกก็ใส่เงินกันตาละ 5 บาทเล่นไปเล่นมาก็ไม่สนุก ก็เลยพนันกันว่าถ้าผมแพต้องถอดเสื้อออกทีละครังถ้าพี่ทั้งสองแพ้คนใดคนหนึ่งต้องถอดอ อก เล่นไปเล่นมาเราก็อยู่ในชุดวันเกิหมดครับ ไม่อายเพื่อนผมหรอกเพราะแกนอนหลับสนิทเลยครับ ก็เลยไปหาเทียนมาจุดกันแก็ปิดไฟกินเหล้าต่อตอนนั้น ควยของผมแข็งไปหมด แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรพี่เขา จนพี่หมวยแกอดไม่ได้เอื้อมมือมารูดให้เล่นๆ จนผมเสียวไปหมดผมก็เลยบีบนมพี่หใวยเล่นและก็มีความกล้าที่จะจับหีของพี่จิ๊บและนมพี่ จิ๊บตอนนั้นพี่หมวยเริ่มอมควยของผมยาวประมาร 6*4.5 ครับ พี่หมวยว่าเล็กไปหน่อยผมก็เอามือล้วงหีพี่หมวยบ้างพี่จิ๊บบ้างจนเราแข่งกันครางแต่เพ ื่อนผมก็ไม่ยอมตื่นจนพี่หมวยเอาหีให้ผมเลียให้ผมก็เลียจนแกน้ำแตก พี่หมวยก็ลงไปนอน ตอนนั้นผมก็แปลกใจว่าทำไมผมมีน้ำอดน้ำทนจังสงสัยเมาเหล้าแน่ๆ แล้วผมก็เริ่มเลียหีให้ที่จิ๊บสลับกับบีบนมล้วงพี่หมวยแล้วพี่จิ๊บก็เปลี่ยนมาดูดควย ผมจนน้ำแตกเต้มหน้าพี่จิ๊บ พอพี่หมวยเห็นแกก็รีบดูดควยผมต่อผมเสียวผมหมดเลยครับแล้วเราก้นั่งกินเหล้ากันต่โดยไ ม่ได้เอากัน ผมเช่าอยู่เป็นคนอัธยาศัยดี น่านับถือไม่จุกจิก ท่าทางเป็นคนร่าเริง แต่ลึกๆรู้สึกจะอมเศร้า เป็นเด็กต่างจังหวัด เรียนจบพาณิชย์แล้วเกิดหลงเสน่ห์กรุงเทพฯ เข้าทำงานในห้าง จนตกเป็นภรรยา ของนายห้างพ่อหม้ายเมียตาย มาตั้งแต่พี่เกสรอายุยี่สิบสอง ไม่มีทายาทเพราะพี่เกสรเป็นหมัน อยู่กันมาสิบปี นายห้างหมดกระสุน พยายามยิงอยู่กว่าครึ่งปี ก็ไม่เปรี้ยง ทรมานอารมณ์พี่เกสรยิ่งนักจนพี่เกสรขอร้องให้เลิกกวน นายห้างจึงอยู่ที่บ้านเดิมไม่แวะเวียนมาอีก ตอนที่ผมเข้ามาอยู่แทนเพื่อนไม่เคยเห็นหน้านายห้าง สามีของพี่เกสรเลย จนผมมาอยู่เป็นปีที่สาม สามีพี่เกสรถึงแก่กรรม พี่เกสรได้รับส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรมที่นายห้างจัดแจงรวมทั้งที่ลูกๆ จัดการให้เพิ่มเติม พี่เกสรคิดย้ายกลับบ้านนอก จึงบอกขายบ้านพร้อมที่ ขนข้าวขนของกลับไปแล้ว ฝากให้ผมช่วยดูแลไปพลางผมก็จะสำเร็จการศึกษา ออกทำงานต้องหาที่อยู่ใหม่ ระหว่างนั้นพี่เกสร ไปๆมาๆ แบบเช้ามาเย็นกลับ มาหาสั่งซื้อข้าวของไปเปิดร้านที่บ้านนอก ทุกครั้งที่เข้ากรุงเทพฯ ก็จะแวะมาดูบ้าน ถามข่าวคราว วันหนึ่งพี่เกสรแวะมาตามปกติ ผมกลับมาจากข้างนอก รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจะเป็นไข้ บอกพี่เกสร ขออนุญาตไม่อยู่คุยด้วย รู้สึกไม่ค่อยสบาย จะกินยาแล้วพักผ่อน พี่เกสรเอาหลังมืออังที่หน้าผากผม แล้วไล่ผมให้รีบทานยา บอกว่าหัวร้อนจี๋เลย ผมขึ้นบ้านแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้านุ่งผ้าขาวม้า กินยาแล้ว รู้สึกเวียนศีรษะ เลยล้มตัวนอน นานเท่าไรไม่รู้ได้ แต่รู้สึกเหงื่อเปียกทั้งตัว ขณะเดียวกันรู้สึกเหมือนใครมาเช็ดหน้าให้ แล้วเลื่อนไปซอกคอ รักแร้ แล้วลุกไป ผมหรี่ตาดู เห็นหลังไวๆ พี่เกสร สักครู่เดินกลับมา คงเอาผ้าไปซักชุบน้ำมาใหม่ เช็ดตามข้อพับ แล้วลงไปช่วงเท้า ลุกไปซักผ้าชุบน้ำใหม่มาอีก คราวนี้ปลดปมผ้าขาวม้าออกเช็ดไปรอบๆ ท่อนสวาทดูท่าทางลังเลๆ และแล้วจบลงด้วยการจับเกาะกุม แบบอำนาจอยู่ในกำมือ ถอกขึ้นลงโดยกำหลวมๆ ท่อนแข็งยาวโด่ พี่เกสรเปลี่ยนเป็นลูบเบาๆสองมือ สักพักก็หยุดนุ่งผ้าขมวดปมผ้าขาวม้าให้ใหม่ เอามืออังที่หน้าผาก พร้อมเรียกถาม "น้องพล ๆ เป็นไง ค่อยยังชั่วขึ้นไหมผมทำเป็นเพิ่งรู้สึกตัว ผงกหัวขึ้น มือกางตะปบผ้าขาวม้า ด้วยเจตนาให้ท่อนสวาทลอดชายผ้า ลอดระหว่างนิ้ว ตั้งโด่ขึ้นมา พี่เกสรแกล้งทำว่าเพิ่งเห็น อุทาน "อุ้ย ตาเถรหัวถอก กระดอโผล่" ผมก็แกล้งทำตกใจ มือจับโคนโชว์หัว ถอกพลางขอโทษ "พี่ผมขอโทษ ไม่เจตนา" พี่เกสรบอกว่าเห็นผมไม่สบาย จึงยังเฝ้าคอยอยู่ เห็นบ่ายสามแล้วยังไม่ตื่น จึงขึ้นมาดู เห็นนอนเหงื่อโชกเลยเอาผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ หายแล้วจะชวนไปกินข้าว เร่งให้ผมแต่งตัวไปหาของกินกัน เราออกไปไกลหน่อยไปถึงสามย่าน ร้านอาหารสมัยโน้นก็ยังไม่โอ่โถงเหมือนปัจจุบัน กว่าจะกินอะไรแล้วเสร็จเป็นเวลาห้าโมงเย็น ไม่มีรถกลับบ้านนอก เลยย้อนกลับบ้าน มาตั้งหลักที่พำนักของผม พี่เกสรสรุปง่ายๆว่าขออาศัยนอนด้วย พี่เกสรย้อนเรื่องที่จะกลับไปอยู่บ้านนอก ว่าตั้งแต่เข้ามาเรียนหนังสือจนเผอิญมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน พ่อแม่ก็แก่เฒ่าไม่มีใครดูแล มีพี่ชายก็แยกไปอยู่ต่างอำเภอ ให้ผุสดี ไปอยู่เป็นเพื่อนปู่ย่า สำหรับพี่เกสรสิ้นบุญนายห้างแล้วก็เหมือนตัวคนเดียว ลูกๆ นายห้างเขาก็โตๆ อายุแก่กว่าพี่เกสรทุกคน ไม่อยากรู้ให้เป็นที่กังวลและระแวงของลูกเลี้ยง ว่าแม่เลี้ยงจะมีผัวใหม่ กลัวประพฤติตัวไม่ดี จึงตัดสินใจกลับบ้านนอก จบพาณิชย์ใหม่ๆไปสมัครงาน นายห้างรับเข้าทำงานด้านบัญชี อยู่มาปีหนึ่งภรรยานายห้างเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ นายห้างเศร้าซึมไปหลายวัน รู้สึกสงสาร จึงคอยช่วยเอาใจ จนนายห้างสบายใจขึ้น สาเหตุที่ตกเป็นเมีย ก็เพราะไปตามหนี้สินลูกค้า ที่ต่างจังหวัด พักโรงแรมเดียวกัน เสร็จนายห้างกลางความมืดคืนนั้น เลือดเต็มที่นอน นายห้างดีใจที่ได้เปิดบริสุทธิ์ บอกเมียเก่ายังไม่มีเลือดเลย ได้พี่เกสรถึงเลือด จึงโปรดพี่เกสรเป็นพิเศษ พี่เกสรเองบอกว่าไม่รู้เรื่องเสพสมมาก่อน เพิ่งครั้งแรกเจ็บจี๊ดเดียว แต่แสบนาน กว่าจะได้กันอีกกินเวลาหลายวัน แต่ละครั้งก็อยู่กันกลางความมืด อายความสว่าง ที่เรียกนายห้าง ว่าตามพี่เกสร น่าจะเรียกเถ้าแก่ เพราะเป็นคนจีน และเป็นประเภทจิ้มจึกเดี๋ยวออก แต่จิ้มครั้งละหลายหน ไม่เล้าไม่โลม เปิดใส่เลย ไม่ต้องเปลือย เสร็จแล้วหันหลังอิงกัน มาระยะหลังนายห้างอ่อนปวกเปียกอายุหกสิบกว่า ปั่นๆ พอแข็งพลิกขึ้นสอด จอตรงหน้าหอก็งอไปงอมา สอดไม่เข้า พี่เกสรเล่าว่าก็นอนแบรอตามปกติ ไม่เคยช่วยจับช่วยปั่นกันมาก่อน บางคืนพยายามอยู่เกือบสว่าง ก็ไม่เป็นผล พี่เกสรว่าบางคืนก็เอ็ดเข้าให้ ว่าเอาไม่ได้ ก็ยังจะเอา นายห้างก็แก้ตัวว่า กลัวพี่เกสรจะอดอยาก แล้วไปให้คนอื่น พอประชดเข้าว่าเออจะไปวานคนอื่นทำให้ นายห้างกอดแล้วร้องไห้พี่เกสรต้องปลอบว่ารักนายห้างคนเดียว อยู่กันธรรมดาไม่ต้องทำกันก็ได้ ที่สุดเล่านั้งเคียวห่วย ก็ไม่มากวนใจพี่เกสร อีก แต่จัดแจงแบ่งปันทรัพยสินให้ตามควรพี่เกสรก็หมั่นไปดูแลเป็นกิจวัตร จนล่วงผล่อยไปเหมือนใบไม้เหลือง เสร็จงานศพก็ปลีกตัวออกมาไม่เกี่ยวข้องกับมรดก ลูกๆ นายห้างก็พอใจ ยังแบ่งอะไรให้อีก เพียงแต่ขอร้องให้อยู่หม้ายไปตลอด พี่เกสรบอกว่าใจจริงก็ไม่คิด เพราะไม่ค่อยสนใจ คงเพราะไม่รู้เรื่องมาก่อนแล้วมาไม่รู้รสอีก รู้สึกเหมือนกันแต่ไม่มากไม่อยาก เป็นเมียก็ได้แต่รองรับ กำลังทำก็ยังอายๆ ดีที่นายห้างชอบดับไฟทำ ช่วยลดอายได้มาก ผมถามพี่เกสรว่าเคยมีความสุขสุดยอดไหม พี่เกสรก็ว่ามีความสุขมั่ง แต่ไม่เคยครวญครางเหมือนผุสดีเวลามีอารมณ์ตอนที่ทำกับผม พี่เกสรแอบเห็นผมกับผุสดีกำลังเสพสมกัน ตอนเช้าวันหนึ่ง บอกว่าในชีวิตเพิ่งเห็นจะๆ ทั้งๆที่ตัวเองเคยแต่ทำในความมืด และมาเห็นของจริงจะๆอีกตอนเช็ดตัวให้ผมวันนี้ ไม่เคยจับก็ได้จับ ไม่นึกไม่คิดว่าจะใหญ่และยาวอย่างนี้ ตอนนอนให้นายห้าง ได้แค่นอนถ่างขา นายห้างเข้าคลุกสอดใส่เอง ดันไถไปไถมากว่าจะตรงร่องรูเลื้อยเข้าไปได้ แล้วกระหน่ำกระเด้าจนเสร็จ เสียวบ้างไม่เสียวบ้าง แล้วลงพลิกหลังอิงกัน เหนอะหนะนักก็ลุกไปล้าง แล้วกลับมานอน หลายคืนนายห้าง นายห้างก็กระซิบ บอก "คืนนี้นอนด้วยกันนะ" คืนนี้พี่เกสรบอกขออาศัยนอนด้วย จะบอกเป็นนัยๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็น่าลอง เพราะไม่มีพันธะอะไรผูกมัดพี่เกสรแล้ว เป็นแม่หม้ายร้อยเปอร์เซ็นต์ ความจริงรูปร่างหน้าตาพี่เกสรสวยงามสง่า ผิวพรรณผ่อง สัดส่วนมาตรฐานหุ่นนางแบบ อายุสามสิบสามยังแจ๋ว มองผาดๆว่าสวยแล้ว พอมองแบบเพ่งแบบพิศเข้ายิ่งยวนใจ ดวงตาเยิ้มหวานกวนกาม สบตาคราใดไหววูบจนแข็งโด่ เสน่ห์ยวนชวนเสพสม ไม่เคยพบหญิงใด ผมขออนุญาตอาบน้ำชำระร่างกาย นุ่งผ้าขาวมาออกจากห้องน้ำหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ส่งให้พี่เกสร บอกให้อาบน้ำ ผมนั่งอ่านหนังสือรอ พักใหญ่พี่เกสรออกมานุ่งผ้าขนหนูกระโจมอก ทิ้งเสื้อผ้าพาดไว้ในห้องน้ำ มานั่งลงที่ขอบเตียงบอกให้ผมดับไฟ ปิดทุกดวง ไฟโป๊ะหัวเตียงปิดเป็นดวงสุดท้าย บอกพี่เกสรนอนด้านในผมนอนด้านนอก ต่างคนต่างนอนหงายแหนมองเพดาน เงียบกันท่ามกลางความมืดของคืนข้างแรม พักใหญ่ผมหันไปหา จังหวะเดียวที่พี่เกสรก็หันมาสบตากันกลางความมืด ผมขยับตัวตะแคง กระซิบเบาๆ ริมหู "ขออนุญาตนะพี่" โดยไม่ฟังคำตอบ มือก็ลูบไปหาปมผ้าขนหนูไล้ไปเหนือขอบผ้า เท้าก่ายเพียงเหนือเข่าแล้วเลื่อนขึ้นไปวางนิ่งบนเนินสวรรค์ ขยับตัวให้เข่าคลึงหัวหน่าวไปมา มือกระแซะปมผ้าออกโลมลูบเนินนม จากสัมผัสรู้ว่ายังตูมตั้งราวเต้าสาวบริสุทธิ์ หัวนมชูชัน เจ้าตัวคงสยิวขนลุกเกลียว ลูบซอกคอซอกหู ไล้ลงสีข้าง มาหลุมสะดือ หน้าท้อง เนินหน่าว เอาขาหลีกมือ ทำปูไต่ไล่ลงตามเนินกระจังสวาท นิ้วกลางกระดิกกระดิกตามแนวร่อง ย้อนขึ้นไล่ลง ในจังหวะไล่ลง งอนิ้วกลางลงร้องรูบิดมือคว่ำให้หงายขึ้นทำให้นิ้วงัดร่องรู ร่องขมิบตอดนิ้ว พี่เกสรถอนใจใหญ่ ผมพลิกตัวเข้าคุกเข่ากลางระหว่างขา สอดท่อนดันครูดเข้าท่อธารสวรรค์ รู้สึกแน่นนุ่มห่อหุ้มคลุมลำท่อนตลอด ค่อยๆเลื่อนไหล ไปจนสุดทางรัก พี่เกสรปากเป่าลม แอ่นเด้งสู้ จบด้วยถอนหายใจใหญ่ยาว "พี่ลองชั่วสักครั้ง นะน้องพล" ผมกดท่อนลำสวรรค์แช่นิ่ง เอามือไปลูบหน้าพี่เกสรแผ่วเบา หอมแก้มขวาซ้าย ก้มกระซิบข้างหู "พี่ นี่ไม่ใช่ความชั่วนะพี่ เป็นความรักที่พี่เต็มใจ ผมก็เต็มใจ เป็นความต้องการของคนสองคน ไม่ใช่ใครทำใครถูกทำอย่างที่พี่เคยคิดเคยรู้สึก แต่เป็นเรื่องที่เราร่วมกันทำด้วยความเข้าใจด้วยความรัก เรียกว่าร่วมรัก" ผมเริ่มกระเด้าต่ออย่างเนิบๆ แล้วรู้สึกถึงการเด้งรับของพี่เกสร "พี่เห็นไหมเราช่วยกันร่วมมือกัน ผมกระเด้า พี่เด้ง เราร่วมกันนะพี่ พี่ต้องปล่อยอารมณ์ปล่อยใจเต็มที่นะพี่นะ ไม่ต้องเขินไม่ต้องอาย" ผมกระเด้ายักย้ายส่ายไปมา เอียงให้ครูดซ้ายย้ายมาครูดขวา เธอก็คล้อยตามยักย้ายส่ายตะโพกไปมาพร้อมเด้งหน้าเด้งหลัง ปากก็ซี๊ดซาดเริ่มจากเบาเป็นแรงขึ้นๆ มือที่ลูบหน้าบอกให้รู้ว่าหน้าบิดเบี้ยว ตาหลับ ผมจึงเอื้อมไปกดไฟโป๊ะ สว่างขึ้นมองเห็นร่างขาวสวยดิ้นส่ายสนองการเสนออย่างเต็มใจ คะเนว่าเธอจะเข้าเส้นสุขาวดี ผมก็เร่งกระหน่ำกระเด้าถี่ขึ้น พี่เกสรยกตะโพกเด้งลอย ส่ายตะโพก เพราะไม่อาจควบคุมอารมณ์ ร่องรูสวรรค์ขมิบ ตอด ดูดรุนแรง หนีบปลายท่อนสวรรค์ แล้วเคลื่อนไล่มาตามลำ สิ้นแรงที่ปลากร่อง ราวกับแรงร้อนที่แทรกความเย็นขึ้นมาของไฟใต้น้ำ พี่เกสรสิ้นแรงสงบนิ่งไป นานเป็นชั่วโมงผมตระกองกอดร่างเธอหลับไปตื่นขึ้นด้วยความหนาวยะเยือกด้วยอากาศปลายเด ือนธันวาคม ตอนตีสาม พี่เกสรขยับตัว ผมกอดรัด "หนาวนะพี่นะ กอดผมแน่นๆซิครับ " พี่เกสร กอดรัดผม จนสองร่างเปลือยประกบแน่น ตาจ้องหน้าผมนิ่ง ใบหน้าละไมด้วยรอยยิ้ม "พี่เป็นสุขเหลือเกินพี่ปลดปล่อยใจและปล่อยอารมณ์ ตามน้องพลว่า ไม่เคยคิดว่าความสุขเป็นอย่างนี้ ลืมตัวลืมหมดทุกอย่าง มีผัวมาสิบกว่าปี ไม่เคยสุขอย่างนี้"
มาอ่านความหื่นคนที่ 10721